“ประจิน” ยันไทย-ญี่ปุ่น ลงนามเอ็มโอยูผ่อนปรนให้เที่ยวบินเช่าเหมาลำเข้าญี่ปุ่นได้ 2 เดือนมีผล 11 เม.ย.นี้ แต่ขอตรวจเข้ม ยืนยันเกาหลียังไม่แบนไทย มั่นใจแก้ไขมาตรฐานผ่านตรวจสอบไอซีเอโอ ทันกำหนด 2 มิ.ย.ด้านเอกชนท่องเที่ยวเผยเช่าเหมาลำที่บินได้ทัน 11 เม.ย.น่าจะมีเพียงสายการบินเดียวคือเอเชีย แอตแลนติก แอร์ไลน์
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหากรณีกรมการบินพลเรือนญี่ปุ่น (เจซีเอบี) ออกมาตรการควบคุมเที่ยวบินจากไทยไปญี่ปุ่นว่า เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา กรมการบินพลเรือนของไทยได้ลงนามกับเจซีเอบี เพื่อผ่อนปรนให้เที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลท์) ของไทย สามารถเดินทางไปญี่ปุ่นได้ชั่วคราวอีก 2 เดือน โดยเริ่มบินได้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.-31 พ.ค.นี้เป็นต้นไป แต่หลังจากนั้นต้องรอผลการแก้ไขข้อบกพร่องที่มีนัยต่อความปลอดภัยของไทย จากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ) อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ระหว่างผ่อนปรน ญี่ปุ่นกำหนดเงื่อนไขให้ไทยต้องใช้เครื่องบินแบบเดิม เส้นทางเดิม พร้อมเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบทุกเที่ยวบินจากไทย ตั้งแต่นักบินจนถึงเครื่องบิน พร้อมกับให้ฝ่ายไทยจัดส่งรายละเอียดแผนแก้ไขปัญหามาตรฐานการบินฉบับที่เตรียมจัดส่งไปยังไอซีเอโอให้ญี่ปุ่นพิจารณา ตลอดจนให้ไทยเร่งตรวจสอบมาตรฐานการบินของสายการบินไทยทั้ง 6 ราย ที่บินไปญี่ปุ่น และส่งผลมาให้ตรวจสอบก่อนอนุญาตทำการบิน
พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า ในช่วง 1-2 เดือนนี้ ไทยต้องเร่งแก้ไขข้อบกพร่อง และหากต้องให้หัวหน้า คสช.ใช้มาตรา 44 มาช่วยแก้ไข โดยเฉพาะปรับโครงสร้างของกรมการบินพลเรือน การแก้กฎหมาย การเพิ่มบุคลากร รวมถึงการจ้างผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการบินสากลเข้ามาช่วยงานตรวจสอบมาตรฐาน เพื่อให้ผ่านการตรวจสอบของไอซีเอโอได้ทันตามกำหนด และหลังจากนั้นจะตรวจประเมินมาตรฐานสายการบินทั้ง 41 สายการบินภายในประเทศใหม่
“มั่นใจว่าจะแก้ปัญหาทั้งหมดได้ทัน 90 วัน หรือภายใน 2 มิ.ย.นี้ แต่ก็ได้เตรียมแผนสำรองไว้หากไทยไม่ผ่านประเมินของไอซีเอโอจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปเจรจากับต่างประเทศ เพื่อขอให้ไทยบินไปได้ และหลังจากนี้มีแผนเดินทางไปชี้แจงกับเกาหลีใต้ จีน ออสเตรเลีย ยุโรป และสำนักงานใหญ่ไอซีเอโอ ที่แคนาดา ส่วนข่าวที่เกาหลีได้แบนประเทศไทย ขอยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีประเทศอื่นนอกจากญี่ปุ่นที่ทำหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการ”
นายวรเดช หาญประเสริฐ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หลังจากที่มีการลงนามความร่วมมือกับกรมการบินพลเรือนญี่ปุ่นยังมีขั้นตอนดำเนินการตรวจสอบ แต่ยืนยันว่าเปิดบินเช่าเหมาลำได้ตั้งแต่ 11 เม.ย.นี้เป็นต้นไป ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ทาง บพ.ได้มีการตรวจสอบเพื่อทำการประเมินสายการบินรวมทั้งสิ้น 6 สายการบินที่จะทำการบินเข้าออกประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี โดยเป็นการตรวจสอบด้านปฏิบัติการบินและใบอนุญาตสมควรเดินอากาศ (AOC) ประกอบด้วย 1.นกสกู๊ต แอร์ไลน์ ตรวจเสร็จเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2. เอเชีย แอตแลนติก แอร์ไลน์ ตรวจเสร็จเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 3.เจ็ทเอเชีย จะตรวจเสร็จวันที่ 8 เม.ย. 4.เอเชียน แอร์ จะตรวจเสร็จวันที่ 7 เม.ย. 5.การบินไทย จะตรวจเสร็จ 10 เม.ย. และ 6.ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จะตรวจสอบ 10 เม.ย. โดยจะทยอยส่งข้อมูลที่ตรวจสอบแล้วให้เจแคปพิจารณาเพื่อออกใบอนุญาตก่อน จึงมั่นใจว่าตั้งแต่ 11 เม.ย.นี้เป็นต้นไป ทุกสายการบินของไทยที่อยู่ในเงื่อนไขสามารถเปิดบินเช่าเหมาลำเข้าประเทศญี่ปุ่นได้
จนถึงขณะนี้เกาหลียังไม่มีหนังสือแจ้งเรื่องการสั่งระงับการบินเที่ยวบินจากไทย แต่กำลังรอผลที่นายสมชาย พิพุธวัฒน์ อธิบดีกรมการบินพลเรือน (บพ.) อยู่ระหว่างเจรจาหารือเรื่องกับทางกรมการบินพลเรือนเกาหลี ส่วนจีนก็ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆจากกรณีที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทุกเที่ยวบินทั้งแบบประจำและเช่าเหมาลำยังทำการบินเข้าออกได้ ส่วนสิงคโปร์มีหนังสือยืนยันว่ามีความมั่นใจสายการบินของไทยว่ามีความปลอดภัย และสัปดาห์หน้าจะมีคณะเดินทางไปยังประเทศเยอรมนีและออสเตรเลียเพื่อทำการชี้แจงเช่นกัน
